ดิฉันเป็นชาวกรุงเทพ มาจากชุมชนแออัดคลองเตย มีอาชีพแม่บ้าน และค้าขายของในตลาด ครอบครัวของเราค่อนข้างลำบาก สามีของดิฉันมีอาชีพรับจ้างรายวันแล้วก็ติดยาเสพติด รายได้ของดิฉันมาจากการค้าขายสิ่งของเล็กๆน้อยๆ เมื่อสามีติดยาเสพติด ปัญหาต่างๆก็รุมเร้าเข้ามา เมื่อดิฉันตั้งครรภ์และเราไม่มีเงินใช้จ่ายเพียงพอ ปัญหาก็เลวร้ายยิ่งขึ้น
ต่อมา สามีของดิฉันก็ถูกจับข้อหายาเสพติดและถูกตัดสินจำคุก 5 ปี
ในปี พ.ศ. 2544 ดิฉันไปตรวจครรภ์ที่โรงพยาบาล พบว่าติดเชื้อ HIV ดิฉันอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก มึนงงไปหมด ด้วยความกลัวดิฉันไม่ได้บอกให้ใครรู้ หลังจากตั้งครรภ์ได้ 6 เดือน ก็ได้ข่าวว่าสามีของดิฉันเสียชีวิตในคุก ช่วงนั้นดิฉันเข้าออกโรงพยาบาลบ่อยครั้งเพราะไม่สบาย ครอบครัวจึงสังเกตเห็นความผิดปกตินี้ แต่ก็เป็นบุญที่ดิฉันได้รับยาต้านไวรัสเอดส์ ดิฉันได้ลูกสาวซึ่งมีมีสุขภาพดีไม่ติดเชื้อ
พอลูกอายุได้ 18 เดือน สุขภาพของฉันก็แย่ลงและคิดว่าไม่นานดิฉันคงต้องตาย ดิฉันจึงตัดสินใจบอกให้ญาติพี่น้องรู้ หลังจากนั้นพวกเขาไม่ต้องการพบดิฉันอีกเพราะกลัวว่าจะติดเอดส์และพยายามหาที่อยู่ใหม่ให้กับดิฉัน พวกเขาพบวัดแห่งหนึ่งในต่างจังหวัดที่รับผู้ติดเชื้อเอดส์ระยะสุดท้ายหลายคน
ดิฉันไปอยู่ที่นั่น ได้สักพักแต่เมื่อเห็นมีแต่คนป่วยใกล้ตายทั้งนั้น ดิฉันจึงตกใจกลัวและขอให้พี่น้องหาที่อยู่ที่อื่นให้ดิฉัน
ในปี พ.ศ. 2546 ดิฉันมีโอกาสรักษาโรคเอดส์ โดยดิฉันเข้าชมรมเพื่อนวันพุธที่สภากาชาดไทย ซึ่งเป็นชมรมผู้ติดเชื้อช่วยเหลือกัน เพื่อนในชมรมคนหนึ่งได้แนะนำให้ดิฉันรู้จักกับศูนย์เมอร์ซี่
เขาบอกว่า คุณพ่อ ไมเออร์ จะออกเยี่ยมชาวชุมชนแออัดคลองเตย และมีศูนย์พักฟื้นผู้ป่วยเอดส์โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ดิฉันจึงติดต่อศูนย์เมอร์ซี่ทันที โดยคิดว่าที่นั่นน่าจะเป็นที่ตายของดิฉัน พี่น้องในครอบครัวก็ช่วยติดต่อให้กรมประชาสงเคราะห์ ให้ช่วยดูแลลูกสาวของดิฉัน ซึ่งต่อมาดิฉันก็ได้ทราบว่า มีครอบครัวอุปถัมภ์ลูกสาวของดิฉัน ซึ่งดิฉันไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ใหน
เมื่อมาอยู่ที่ศูนย์เมอร์ซี่ ดิฉันรู้สึกสิ้นหวังและเครียดมาก ที่ได้เห็นคนป่วยรายอื่นนอนอยู่บนเตียง ดิฉันคิดว่าเขานอนรอความตาย แต่สิ่งที่ดิฉันประทับใจเจ้าหน้าที่ของศูนย์เมอร์ซี่มาก นั่นก็คือ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ต่างดูแลเราอย่างดี ไม่แสดงความรังเกียจ ทำให้ดิฉันเปลี่ยนทัศนะคติเกี่ยวกับตนเอง เจ้าหน้าที่สอนวิธีให้พวกเราดูแลสุขภาพของเราเองและสอนวิธีกินยาด้านไวรัสเอดส์ หากดิฉันใช้ชีวิตอยู่เองตามลำพัง ดิฉันคงไม่มีความรู้ต่างๆเหล่านี้
สุขภาพของดิฉันเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งสามารถทำงานให้กับศูนย์เมอร์ซี่ ในการเยี่ยมบ้านผู้ป่วย แต่ดิฉันมีความรู้น้อย จึงขอทำงานอยู่ในศูนย์ผู้ป่วยแทน ทางศูนย์ฯ ได้อบรมให้ความรู้และให้ดิฉันฝึกงาน ปัจจุบันดิฉันเป็นพนักงานที่มีความสามารถ ขณะที่ทำงาน ดิฉันก็ได้ใช้ความรู้และประสบการณ์ ช่วยผู้ป่วยที่เราดูแล
ในอนาคต ดิฉันอยากใช้ชีวิตได้ด้วยตนเอง สามารถดูแลตัวเองและลูกสาว ดิฉันอยากมีสุขภาพดีกว่านี้อีก เพื่อสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยในศูนย์ฯ ไห้สามารถกลับไปอยู่ที่บ้าน ใช้ชีวิตด้วยตนเองกับครอบครัวได้ในวันใดวันหนึ่ง ก่อนที่เราจะสามารถช่วยผู้อื่น ใจเราต้องเข้มแข็ง ดูแลตัวเองให้มีความสุข ซึ่งจะช่วยผู้อื่นให้มีความสุขด้วยเช่นกัน
หลังจากทำงานที่ศูนย์เมอร์ซี่มา 4 ปี ดิฉันได้พัฒนาไปมาก เราเริ่มจากศูนย์พักฟื้นผู้ป่วย ปัจจุบันเรามีทีมเยี่ยมบ้านที่เข้มแข็ง มีทีมอบรมให้ความรู้ด้านเอดส์ มีบ้านแม่และเด็กติดเชื้อ ดิฉันอยากเห็นศูนย์เมอร์ซี่เป็นศูนย์เรียนรู้และฝึกอบรมผู้ที่จะทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยเอดส์
ดิฉันอยากให้ผู้ป่วยติดเชื้อทุกคนเข้าใจว่า เมื่อเขาพลาดพลั้งไป เขาต้องเปิดใจยอมรับความจริง หากเขาไม่ยอมรับ เขาก็จะปฏิเสธการรักษาที่ถูกต้อง ความพลาดพลั้งไม่ใช่ความผิดเสมอไป หากคุณกล้าเผชิญความจริง คุณก็จะสามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีศักดิ์ศรี
More Voices: